

เมื่อมีคนพูดถึงการท่องเที่ยวทีไร คนไทยที่พอมีเงินก็มักชอบไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีที่ท่องเที่ยวมากมาย ถ้าจะเที่ยวไทยจริงๆ หนึ่งปียังเที่ยวไม่หมดเลย ดังนั้น ผมจึงอยากเชิญชวนให้รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เขาเรียกว่า อุทยาน หากนับกันแล้ว อุทยานในประเทศไทยมีอยู่มากและมีความสวยงามทั้งนั้น โดยแต่ละที่ก็จะมีคนนิยมไปเที่ยวตามฤดูกาลที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นเดือนพฤจิกายนถึงธันวาคม ที่จะเข้าใกล้หน้าหนาว คนส่วนใหญ่ก็จะเตรียมหาเวลาขึ้นเขาไปพิชิตยอดดอย สูดอากาศสดชื่นกัน ทีนี้เราลองมาดูกันซิว่า ป่าเขา น้ำตกของไทย ประจำปี มีที่ไหนน่าไปเที่ยวชมกันบ้าง...เที่ยวแล้วอ่านแล้วจะชอบ หรือไม่ชอบยังไง แนะนำต่อเที่ยวได้ บอกเพื่อนๆ ต่อได้ อุทยานที่แรกผมขอเสนอ..
อันดับที่ 1 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
สุดยอดเหนือใครในสยามประเทศด้านความสูงด้วยดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย 2,565 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศหนาวเย็นตลอดปี แวดล้อมด้วยสภาพป่าแบบดึกดำบรรพ์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด และนกสวยงามนานาพันธุ์ ด้วยเป็นป่าต้นน้ำ จึงมีน้ำตกสวยงามขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่กลาง ฯลฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งกองทัพอากาศสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบอีกด้วย

อันดับที่ 2 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย
อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทยต่อจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหนือที่ราบกว้างใหญ่บนยอดภูสูง 1,200 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง งามตาด้วยทิวสนเรียงราย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบภูกระดึงเพราะความหลากหลายในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีหน้าผาจุดชมทิวทัศน์มากมายหลายจุด ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักคือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นและจุดชมพระ อาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ทั้งยังมีน้ำตกขนาดกลางและขนาดเล็กที่สวยงาม เช่น น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกธารสวรรค์ ฯลฯ อีกทั้งสภาพป่าที่มีทั้งป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีพรรณไม้แปลกๆ สวยงามในยามดอกไม้ป่าสะพรั่งบานเปรียบเสมือนกับอุทยานบนสรวงสวรรค์
อันดับที่ 3 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา-นครนายก-ปราจีนบุรี-สระบุรี
อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2505 ได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยขึ้นทะเบียนร่วมกับป่า 5 ผืนใหญ่ คือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา อุทยานแห่งชาติทับลาน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 2 ของไทย ต่อจากผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง เขาใหญ่เป็นแหล่งที่สามารถพบเห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด ทั้งยังมีน้ำตกใหญ่ที่สวยงาม เช่น น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกอื่นๆ อีกมากมายกว่า 20 แห่ง รวมทั้งยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติอีก 13 เส้นทาง จึงเป็นขวัญใจของบรรดานักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมา ตลอดทุกยุคทุกสมัย
อันดับที่ 4 สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ที่ทรงต้องการเปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นของชาวไทยภูเขามาเป็นแปลงเกษตรเมือง หนาวที่สามารถสร้างรายได้ วันนี้ดอยอ่างขางได้เปลี่ยนสภาพจากภูเขาซึ่งถูกตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นพื้นที่ อุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกเมืองหนาวกว่า 20 ชนิด พันธุ์ไม้ผลกว่า 12 ชนิด และแปลงผักเมืองหนาวอีกกว่า 60 ชนิด รวมทั้งหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหลายเผ่า คือ จีนฮ่อ ไทยใหญ่ มูเซอดำ และปะหล่อง ทิวทัศน์ชายแดนไทย-พม่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกสำคัญที่มีนกน่าสนใจหลายชนิด
อันดับที่ 5 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน
เป็นผืนป่าต้นน้ำลำธารที่โดดเด่นด้วยป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และทิวเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีจุดชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือ จุดชมวิวห้วยน้ำดัง อันเป็นสถานที่ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างชัดเจนงดงาม ท่ามกลางแสงสีทองของอรุณรุ่ง แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับพันมาพักแรมเพื่อรอชม นอกจากนี้ ยังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทางอุทยานฯ ได้จัดสร้างบ้านพักพร้อมบ่อสำหรับอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนครบวงจรพร้อมบริการ
จาก 5 ที่นี้ลองดูครับว่า ชอบบรรยากาศแบบไหนก็ไปที่นั่นดู เผื่อคุณจะหลงไหลเหมือนที่ผมเคยไปเที่ยวมาแล้ว บอกได้ว่าประทับใจสุดสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น