วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สะ-หมอง ปลุกก่อนได้เปรียบ


อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ ผมชวนมา “อัพพลังความคิด” พร้อมเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ปฏิบัติไม่ยาก แม้ในเวลาแสนจำกัด! เริ่มจากนอนหลับให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนน้อยจะทำให้ประสิทธิภาพการจำลดลง ทั้งยังนำไปสู่การมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยผลการศึกษาด้านโภชนาการของนักวิจัยในสหรัฐอเมริกา พบว่า ระบบดูดซึมสารอาหาร และเผาผลาญพลังงานของร่างกายจะลดลงเมื่อนอนหลับน้อยเกินไป ดังนั้น น้อง ๆ ควรพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
อาบน้ำอุ่น-เย็น เพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมในร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากน้ำอุ่นก่อน เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จากนั้น ปลุกเร้าประสาทสัมผัส และทำให้กล้ามเนื้อสดชื่นด้วยน้ำเย็น
ทานมื้อเช้าเป็นประจำ เนื่องจากขณะหลับร่างกายยังคงใช้สารอาหารอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น แม้หลายคนจะมีกิจวัตรรีบเร่งจนไม่มีเวลาทานข้าว ก็ไม่ควรปล่อยเลยตามเลย ลองเติมพลังงานใหม่ด้วยมื้อด่วนที่มีคุณค่าอย่าง นม เครื่องดื่มธัญญาหาร ผลไม้ ขนมปัง หรือแซนวิชโฮลวีท เท่านี้ก็พร้อมรับมือกับการเริ่มต้นเรียนรู้ในแต่ละวันแล้ว
ดื่มน้ำผัก-ผลไม้ แหล่งสารอาหารซึ่งอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด อีกทั้ง รสหวานจากธรรมชาติ ยังให้พลังงานแก่ร่างกาย คลายความอ่อนเพลีย กระตุ้นความสดชื่น และคืนความกระปรี้กระเปร่าได้ดี
นวดเรียกความสดชื่น โดยใช้ 2 นิ้ว นวดชีพจรบริเวณท้องแขนประมาณ 2-3 นาที จากนั้น ใช้ 2 นิ้ว กดลงบนกลางหน้าผากทั้ง 2 ด้าน ค้างไว้ประมาณ 2-3 นาที จะช่วยบริหารสมอง กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และคลายความตึงเครียดได้


สำหรับวัยเรียนที่รู้สึกว่าตื่นนอนตอนเช้าแล้วไม่สดชื่น สมองตื้อ มึน งง ลองเรียกความกระฉับกระเฉงด้วยวิธีข้างต้นดู เมื่อร่างกายพร้อม สมองย่อมเรียนรู้ และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไปด้วยนั่นเอง เมื่อ “สมอง” ล้า ย่อมต้องการออกกำลังกายเหมือนกัน “เดลินิวส์แคมปัส” มีวิธีล็อกความแข็งแรง เติมประสิทธิภาพการทำงานของสมองมาฝาก ทำไม่ยาก! ใช้หน่วยความจำให้บ่อย เริ่มจากจำเส้นทาง เบอร์โทรศัพท์ของเพื่อน ๆ หรือญาติ แทนการเปิดหาจากสมุด รวมถึงเรียนรู้คำศัพท์ภาษาต่างประเทศทุกสัปดาห์ จากนั้น ลองท่องในสิ่งที่จำนั้นออกมา เท่านี้ก็สามารถประเมินศักยภาพสมองได้ในเบื้องต้น สนทนา และหมั่นคิดวิเคราะห์ เนื่องจากการพูดคุย และร่วมแสดงความเห็นในประเด็นต่าง ๆ จะกระตุ้นกระบวนการคิด นอกจากนั้น การอ่านหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวสาร หรือดูรายการที่ให้ความรู้แล้ววิเคราะห์ตาม ก็จัดเป็นอาหารดีสำหรับสมองเช่นกัน

จากนั้นมาลับสมองด้วยงานอดิเรก และปริศนาปัญหา อย่างในวันว่างกับงานศิลปะ เช่น วาดภาพ วาดการ์ตูน ออกแบบเสื้อผ้า นอกจากกระตุ้นการฝึกคิดแล้ว ยังช่วยพัฒนาอารมณ์ด้วย รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ระหว่างวัน เพียงคิดบวก พยายามแก้ไขหาทางออก ก็ถือเป็นความท้าทายของสมองรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น ไม่ต้องกลัวปัญหาออกกำลังกายสม่ำเสมอ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ในต่างประเทศพบว่า การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้สารเอ็นดอร์ฟินในสมองถูกปล่อย ทำให้สดชื่น ลดเครียด พร้อมเริ่มต้นเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พักผ่อนให้พอเหมาะ โดยไม่นอนน้อย หรือมากจนเกินไป นอกจากนี้ การทำสมาธิ ยังเปรียบเหมือนยาชูกำลัง และยารักษาโรคที่ดีสำหรับจิตใจด้วย ทั้งยังส่งผลต่อสมองพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ทันทีที่วัยเรียนเริ่มต้นพัฒนาสมอง นอกจากจะส่งผลดีต่อทักษะการคิดแล้ว น้อง ๆ จะสังเกตถึงความเชื่อมั่นที่พร้อมเกิดขึ้นตลอดเวลา เพียงเติมพลังสม่ำเสมอ โดยเริ่มง่าย ๆ ด้วยวิธีข้างต้นนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น