คนเราเกิดมาทั้งทีในชีวิตหนึ่ง ไม่นานเท่าไรก็ต้องจบชีวิตลงทุกคน เหตุใดเราจะมัวมาเสียเวลาด้วยการอยู่อย่างไร้ความสุขและพบกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของชีวิต เราจะพบว่าความสุขของคนเราไม่ได้อยู่ตรงความร่ำรวย มีชื่อเสียงเกียรติยศ หรือการได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้อื่น หากแต่ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ใจของเราต่างหาก ทำไมเราจึงไม่หาวิธีการ หรือวิธีคิดที่จะทำให้เรามีความสุขอย่างมั่นคง ไม่ว่าอะไรหรือใครจะเป็นอย่างไร เราก็ยังคงมีความสุขอย่างมั่นคงเหมือนเดิมเสมอ ตรงนี้ต่างหากที่เราควรจะศึกษาและหาทางบริหารจัดการเผื่อจะได้มีชีวิตที่มีความสุขอย่างมั่นคงเสมอและตลอดไป
ในยุคที่บ้านเมืองมีปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ รวมทั้งความเจริญทางเทคโนโลยี ฯลฯ ดูเหมือนจะยิ่งทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ไร้ความสุขไปตาม ๆ กัน เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการดังกล่าวจึงควรพิจารณาวิธีการต่าง ๆ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ เพื่อลงมือปฏิบัติ อย่าได้มัวผัดผ่อน แล้วคุณก็จะได้เดินไปบนเส้นทางชีวิตอย่างมีความสุข วันนี้ผมมีแนวทางการปฏิบัติให้มีความสุขมาฝาก...
วิธีปฏิบัติเพื่อความสุขในชีวิต 9 ประการ
บางทีคนส่วนใหญ่มักจะมองอะไร ๆ ที่อยู่ไกลตัว และหากเกิดสิ่งที่ไม่เป็นไปดังใจปรารถนา ก็จะโทษผู้คน ไม่ว่าคนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง ฯลฯ ว่าเป็นเหตุให้ตนพบปัญหาแล้วก็เกิดความไม่พอใจ เครียด วิตกกังวล ไร้ความสุข ดังนั้น เพื่อให้เรามีความสุขอย่างมั่นคง เราจึงต้องมีหลักในการคิดและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องดังนี้
1.จงเป็นตัวของตัวเอง
อย่าเลียนแบบคนนั้นคนนี้ เพราะคุณก็เป็นคุณ เขาก็เป็นเขา อย่าไปอยากเป็นอย่างคนนั้นคนนี้ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ เราก็จะผิดหวัง จงเป็นตัวของตัวเอง พัฒนาปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ พอใจตัวเองที่เป็นอยู่ เราก็จะมีความสุข ถ้าอยากให้ดีกว่านั้นก็เรียนรู้และประเมินตนเอง แก้ไขปรับปรุงสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง และสิ่งใดที่เป็นคุณสมบัติที่ดีก็เพิ่มพูนให้มากขึ้น การกระทำเช่นนี้เราทุกคนล้วนทำได้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วเราก็จะมีความสุขเสมอและตลอดไป
2.จงค้นหาตัวเองให้พบ
3.สร้างนิสัยที่มีในการทำงาน
การทำงานจะประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ปฏิบัติงานจะต้องเอาใจใส่ในการทำงาน ขยันหมั่นเพียรในการทำงานแสวงหาความรู้เพิ่มเติม พัฒนาตนเองในทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ ทักษะการพูด ฯลฯ การทำเช่นนั้นย่อมทำให้คุณเก่งงาน มีความคิดสร้างสรรค์ งานย่อมประสบผลสำเร็จ คุณย่อมมีความภาคภูมิใจในตนเองและมีความสุข
4.ดูแลสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าคุณไม่ดูแลสุขภาพหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะอ่อนเพลีย มีโรคภัยไข้เจ็บ คุณก็จะทนทุกข์กับโรคภัยไข้เจ็บนั้น ๆ ไม่มีความสุข อารมณ์ไม่ดีเพราะต้องทนกับความเจ็บป่วย ทำงานทำการไม่เต็มที่ ดังนั้น คุณจึงต้องดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง จะได้มีความสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ทำงานได้เต็มที่
เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผลดีกับร่างกายและจิตใจแต่อย่างใด เมื่อจิตใจไม่ปรกติ ก็จะพาลให้ร่างกายมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ถ้าคุณมีความเครียด วิตกกังวลอยู่เป็นประจำ คุณอาจจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคกระเพาะ หรืออาจเป็นโรคมะเร็งก็ได้ ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่าอะไรไม่เป็นผลดีกับร่างกายและจิตใจก็ควรขจัดไปเสียให้สิ้น ถ้าจะคิดก็จงคิดในเรื่องที่ดีงานและสร้างสรรค์ ถ้าจะมองโลกและมองคน ก็จงมองในแง่ดีเพราะจะเป็นประโยชน์กับตัวของคุณเอง คุณจะมีความสุขสดใสและมีผู้คนเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์อันดีกับคุณอีกด้วย ถ้าเรามองคนในแง่ลบก็คงไม่มีใครอยากคบและเป็นมิตรกับเราอย่างแน่นอน
6.จงพอใจงานที่คุณทำและมีความสุขสนุกกับงาน
เราอาจจะไม่โชคดีได้ทำงานที่เราชอบ แต่เราจะชอบงานที่เรารับผิดชอบทำอยู่ เพราะมิฉะนั้นเราจะเกิดความเบื่อหน่ายถ้าต้องทำงานที่เราไม่ชอบ ผลงานย่อมไม่ดีก็เพราะเราไม่พอใจงานนั้น ซึ่งทำงานอย่างเสียมิได้ ให้แค่เสร็จ ๆ ไปเท่านั้น และในระหว่างทำงานผู้ทำก็เป็นทุกข์และไม่สนุกกับการทำงาน แต่งานก็คือชีวิต คนเราจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าไม่ทำมาหากินหรือไม่ทำงาน ดังนั้น เราจะชอบหรือไม่ชอบงานนั้นก็ตาม แต่มันก็เป็นหนทางเลี้ยงชีพให้เรามีกินมีใช้มิใช่หรือ ความชอบ ไม่ชอบงานนั้น มันอยู่ที่ใจของเราเองต่างหากเล่า
7.จงให้คุณค่ากับชีวิตของคุณเอง พอใจและร่าเริงแจ่มใส
8.จงคิดแต่ในสิ่งที่ดีงาม
เพราะการคิดในแง่เชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นการคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ หรือการคิดต่อบุคคลอื่น ย่อมทำให้คุณมีความสุขและปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่ายด้วย เพราะมองในแง่บวกของบุคคลอื่น พวกเขาก็จะชอบและเป็นมิตรกับคุณอีกด้วย ตรงกันข้ามหากเรามองคนอื่นในแง่ลบ อะไรเกี่ยวกับบุคคลอื่นดูแย่ไปเสียหมด เช่น พูดจาไม่เข้าหู บุคลิกภาพไม่ดี มารยาทไม่เอาไหน ฯลฯ ถ้าคิดแบบนี้คุณย่อมไม่คบหาด้วย และบุคคลเหล่านั้นก็ยากที่จะมีความรู้สึกที่ดี ๆ กับคุณ ความคิด ความรู้สึกในแง่ลบ ไม่ทำให้ชีวิตเป็นสุขแต่อย่างใด
9.รู้จักจัดการกับการให้ร้ายป้ายสี
โลกนี้มีคนที่ชอบนินทาว่าร้ายและวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นเต็มไปหมด เราจึงไม่ควรโมโห หรือโกรธแค้นเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ จงอย่าใส่ใจ ไม่ต้องแคร์ เพราะคุณย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าตัวคุณเป็นอย่างไร และจงคิดเสียว่าบุคคลประเภทนั้นเป็นคนน่าสงสาร ขี้อิจฉาและไร้คุณค่า ไม่อยากเห็นใครได้ดี ถ้าคิดได้อย่างนี้คุณก็จะไม่หวั่นไหว และยังปรกติสุขดีอยู่
ถ้าทุกคนได้มีการรู้จักวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น จะทำให้คุณมีความสุขอย่างมั่นคง ไม่ว่าชีวิตจะเผชิญปัญหาอะไรคุณยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมีความสุขและความสำเร็จเสมอและตลอดไป..เชื่อผมสิครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น