

ชีวิตเราเมื่อเจอปัญหาของการรักษาโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ในรูปแบบทั่วไป คนเราก็จะแสวงหาวิธีการรักษาในทางอื่นต่อไป ซึ่งในรูปแบบการรักษาทางอื่นนั้น มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แพทย์ทางเลือก เป็นการเลือกทางแพทย์ที่นอกเหนือจากปกติที่เขารักษากัน เป็นแบบเฉพาะทาง เพราะโรคบางโรค คนบางคนก็ไม่สามารถถูกรักษาให้หายได้ตามนั้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจมีจำนวนมาก ได้แต่เฝ้ารอความหวังและฝันจะมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกสักหน่อย จากความผิดปกติของเส้นเลือดหัวใจ แม้จะเดินหน้ารักษามาหลายกลยุทธ์ ทั้งกินยาขยายหลอดเลือด ทำบอลลูน ผ่าตัดสวนหัวใจ จนเกือบหมดตัว แต่ความหวังยังริบหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุที่มีอาการอื่นร่วมด้วย ส่วนใหญ่แพทย์แนะนำการรักษาแบบประคับประคองมากกว่าผ่าใหญ่ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ป่วยมากขึ้น คนไข้จำนวนไม่น้อยหันหลังให้กับการรักษาโรคแผนปัจจุบัน เพราะกลัวผลข้างเคียงจากการใช้ยา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้ยาขยายหลอดเลือดรักษาไขมันอุดตันในเส้นเลือดในปริมาณมาก ยิ่งในผู้ป่วยอายุมากไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัด ชีวิตแต่ละวันจึงวุ่นวายกับการกินยาทุกมื้อทั้งก่อนและหลังอาหาร จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
"แพทย์ทางเลือก" จึงกลายเป็นช่องทางใหม่ที่ผู้ป่วยบางรายให้ความสนใจ ทางเลือกที่ว่าคือ เลือกไม่กินยา แต่อาศัยการปรับอาหาร รับประทานวิตามินเสริม ใช้ยาสมุนไพรพื้นบ้าน ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ดีท็อกซ์ล้างพิษ ไปจนถึงแพทย์ทางเลือกอื่น เช่น ธรรมชาติบำบัด รำมวยจีน ฝังเข็มตามการแพทย์แผนจีน อายุรเวชในแบบอินเดีย หรือแม้แต่การนวดในแบบของไทยเองก็ช่วยรักษาโรคบางโรคได้เช่นกัน อายุรแพทย์โรคหัวใจท่านหนึ่งได้ยืนยันว่า แนวความคิดดังกล่าวเกิดในทั่วโลก “คนไข้โรคหัวใจจำนวนหนึ่งทดลองการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็มเพื่อลดความดัน ควบคู่กับการนั่งสมาธิ วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างดีเมื่อใช้ควบคู่กับทานยาตามการรักษาในแบบปกติ” คุณหมอบอกว่า ภาวะความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในอาการแสดงออกของผู้ป่วยโรคหัวใจที่ไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยกว่า 90% ต้องทานยาต่อเนื่องไปราว 30-40 ปี ควบคู่ไปกับยาอื่น สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่คนไข้จำต้องเผชิญ
อย่างไรก็ตาม แม้การฝังเข็มจะเป็นหนึ่งในแพทย์ทางเลือกที่คนสนใจ แต่วิธีดังกล่าวไม่ได้เห็นผลในทันที เมื่อเปรียบเทียบกับการกินยา 1 เม็ด ในกรณีฝังเข็มลดความดันจะต้องฝังเข็มสม่ำเสมออาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง รวม 10 ครั้ง ต่อ 1 คอร์ส โดยจะเห็นผลชัดเจนในครั้งที่ 3 แต่ประคองอาการได้นานกว่าการกินยาตามปกติ
สิ่งที่แพทย์ในปัจจุบันพยายามทำคือ ลดการใช้ยาโดยใช้ยาเท่าที่จำเป็น รวมถึงยาเฉพาะที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความดันโลหิตและช่วยป้องกันหลอดเลือด ขณะที่กลุ่มคนไข้บางกลุ่มแทนที่จะให้ยาเพิ่ม กลับเลือกการรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือกแบบผสมผสานแทน แพทย์รุ่นแรกๆ ในไทยที่ฝึกทำบอลลูน รับรู้อาการคนไข้หลังรับการรักษา จนกระทั่งเห็นข้อจำกัดของการแพทย์แผนปัจจุบัน “ต้องยอมรับว่าการแพทย์แผนปัจจุบันจะเน้นแต่ร่างกายเพียงอย่างเดียวไม่ได้คำนึงถึงจิตใจผู้ป่วยเท่าไหร่ ขณะที่ร่างกายและจิตใจ มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด”
การรักษาด้วยการแพทย์แบบผสมผสานขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผู้ป่วยและโรคที่ปรากฏ คนไข้หนึ่งรายสามารถรักษาได้หลายศาสตร์ ส่วนมากการแพทย์ทางเลือกถูกนำมาใช้รักษากับโรคเรื้อรัง โรคที่รักษากับแพทย์แผนปัจจุบันแล้วไม่หายขาด เช่น โรคหัวใจ ความดัน เจ็บปวดที่รักษาไม่หาย เช่น ภูมิแพ้ เวียนศีรษะ และโรคของความเสื่อม เช่น ออทิสซึม หรือโรคความจำเสื่อมในเด็ก
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของการรักษาการแพทย์ทางเลือกคือ ไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจน ดังนั้นก่อนเลือกใช้การแพทย์ทางเลือกต้องพิจารณาให้ดีว่ามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพียงพอหรือไม่ โดยแนวทางที่ถูกต้องคือปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการของโรค จับคู่กับศาสตร์การรักษาที่เหมาะสมกับบุคคล อาจเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน หรือรักษาร่วมกับการฝังเข็ม นั่งสมาธิก็เป็นได้
แม้การแพทย์ทางเลือกจะได้รับความสนใจ แต่กับคนบางกลุ่มก็ไม่สามารถทำได้ เช่น บางคนไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน หรือคนที่กลัวเข็ม คนที่ปวดศีรษะตลอดเวลาจากความผิดปกติของกระดูกต้นคอ ซึ่งแพทย์สามารถแนะนำเทคนิค หรือวิธีการเลือกการแพทย์แบบผสมผสานเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อนได้ เขามองว่า ในอนาคตการรักษาโรคด้วยวิธีฝังเข็มจะเป็นแพทย์ทางเลือกอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เช่น ใช้รักษาอาการนอนไม่หลับแทนการกินยา เพราะการนอนหลับไม่สนิทเป็นสาเหตุที่ทำให้ความดันโลหิตสูง ตลอดจนก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวข้องกับสมองในอนาคตหากใช้ยานอนหลับต่อเนื่องเป็นเวลานาน วิธีการฝังเข็มช่วยให้หลับสบายได้ถึง 80% โดยไม่ต้องกินยา
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาทางเลือกอื่นที่น่าสนใจ อาทิ วิธีการดูจิต (Hypnotherapy) การจัดกระดูก (Chiropractic) ตลอดจนการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในแบบการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่นการวัดพลังงานจากคลื่นความถี่ในร่างกาย (Energy medicine )รวมถึงศาสตร์การดูแลรักษาผู้ป่วยในแบบฉบับของการแพทย์ทางเลือกที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน เริ่มมีข้อมูลทางการแพทย์มากขึ้นสำหรับพิจารณาความเหมาะสมในการใช้สมุนไพรรักษาโรคควบคู่กับการรักษาตามแผนปัจจุบัน เนื่องจากสมุนไพรบางชนิดเท่านั้นที่เหมาะสมกับการรักษาแบบผสมผสานทั้ง 2 ศาสตร์เข้าด้วยกัน ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ ที่ทั้งสองแบบจะผสมผสานกันจริงๆ เพราะไม่ว่าจะแพทย์ทางเลือกแบบไหนผมคิดว่าขอให้โรคร้ายหาย อาการเจ็บทรมานนั้นดีขึ้นเป็นพอ ส่วนจะเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ดีที่สุดผมก็ยอม เพื่อทำให้ชีวิตพ้นจากความทุกข์ทรมานของร่างกายที่เจ็บป่วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น