วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

มาดิ มาเที่ยว พม่า 2011


สำหรับอังคารนี้ ผมขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเสมือนเมือง(ประเทศ)พี่น้อง เมืองศัตรูเก่า และเมืองที่มีอารยธรรมสวยงามเก่าแก่พอกับประเทศไทย ประเทศนั้นคือ..“พม่า” ดินแดนสนธยาสำหรับใครบางคน ที่นี่เราทราบกันดีว่ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ที่หลากหลาย ในเวลานี้เมื่อการเมืองมาถึงจุดเปลี่ยน ซึ่งเกิดจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปลายปีที่ผ่านมา พม่าจะเดินไปทิศทางไหนในอนาคต หลังจากที่ประเทศพม่าได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1948 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองการปกครองในแบบพม่า ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมาพม่าก็มีความผันผวนภายในประเทศมาโดยตลอด โดยมีปัจจัยที่สำคัญ เช่น การปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหาร การแสวงหาประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ และการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยที่ต้องการเอกราช สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ส่งผลให้พม่าขาดความเป็นหนึ่งเดียวภายในประเทศ อย่างที่เราทราบกันดีว่าพม่าปกครองด้วยระบอบเผด็จการทหารมาอย่างยาวนาน และการมาของอองซานซูจีได้ทำให้การเมืองในประเทศพม่าแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน คือฝ่ายรัฐบาลที่เป็นทหารกับฝ่ายประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย นำโดย อองซานซูจี ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ประเด็นทางการเมืองในพม่าได้รับความสนใจจากนานาชาติมาโดยตลอด นั่นคงเป็นเพราะว่ารัฐบาลทหารพม่ากำลังถูกท้าทายจากระบอบประชาธิปไตยแห่งโลกเสรีนั่นเอง

อองซานซูจี คือลูกสาวของนายพลอองซาน วีรบุรุษผู้เคยนำพม่าหลุดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ในช่วงชีวิตของอองซานซูจี ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดและเติบโตในพม่า แต่ก็ได้รับโอกาสให้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ และทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ เป็นเวลากว่าหลายปี จนกระทั่งเธอตัดสินใจเดินทางกลับมายังประเทศบ้านเกิดเพื่อดูแลมารดาที่กำลังป่วยหนัก ซึ่งในตอนนั้นการเมืองไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในความสนใจของอองซานซูจีเลย แต่ในช่วงที่เธอกลับมาพม่ากำลังเจอกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ส่งผลให้นักศึกษาและประชาชนลุกขึ้นมาประท้วง และรัฐบาลในขณะนั้นนำโดยนายพลเนวิน ได้มีคำสั่งให้สลายการชุมนุมด้วยกำลังทหาร ส่งผลให้มีผู้คนบาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้อองซานซูจีตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยมีเป้าหมายคือการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศพม่า แต่เส้นทางสายการเมืองของเธอก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล ตั้งแต่สมาชิกพรรค NLD ถูกจับ ตัวเธอเองก็ถูกสั่งให้กักบริเวณอยู่แต่ภายในบ้านพัก และผลการเลือกตั้งในปี ค.ศ.1988 พรรค NLD ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น แต่ภายหลังรัฐบาลทหารกลับปฏิเสธที่จะถ่ายโอนอำนาจให้

7 พ.ย. ปี ค.ศ. 2010 ที่ผ่านมา คือวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในประเทศพม่า ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้มีระยะห่างจากการเลือกตั้งในครั้งที่แล้วคือในปี ค.ศ. 1988 ถึง 22 ปี จึงทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ และท้ายที่สุดผลการเลือกตั้งก็มีมติประกาศให้พรรค USPD ได้รับชัยชนะและมีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล แต่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า คณะรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้หลายคนเคยดำรงตำแหน่งทางการทหารมาก่อน จึงทำให้มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะยังมีความเกี่ยวโยงกับรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งในประเด็นนี้ ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและรองประธานสภาหอการค้าไทยพม่า ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายอาจมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการจัดตั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจว่าประชาธิปไตยในพม่าเป็นลักษณะของการผ่องถ่าย กล่าวคือต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ซึ่งจะว่าไปแล้วหากมองในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน จะพบว่าการเมืองในหลายประเทศ ฝ่ายค้านไม่ได้มีบทบาท ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือประเทศกัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งประเทศเหล่านี้ฝ่ายค้านมีจำนวนน้อยและไม่มีบทบาทมากนักต่อรัฐบาล เมื่อเทียบกับประเทศพม่าก็จะพบว่ามีพรรคการเมือหลายพรรคมากกว่าพรรครัฐบาล ซึ่งมีเพียงพรรคเดียว ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในพม่าเราต้องยอมรับได้ เพราะอย่างน้อยในขณะนี้พม่าก็เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยแล้ว

ในตอนนี้เป็นเวลากว่า 9 เดือนแล้ว ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์ก็สงบและเรียบร้อยดี จึงทำให้รัฐบาลชุดนี้ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับนโยบายในการบริหารประเทศ ซึ่งอาจารย์อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ในเวลานี้รัฐบาลพม่ากำลังดำเนินตามแผนปรองดอง 7 ขั้น ซึ่งก็ได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาไว้แล้วเป็นอย่างดี เพราะเสถียรภาพของรัฐบาลชุดนี้ยังมีความเปราะบางอยู่ ดังนั้นจึงลงเอยด้วยการปล่อยตัวอองซานซูจี เพื่อลดความกดดันทางการเมืองจากนานาชาติ ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงการแก้ปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงจากปัญหาชนกลุ่มน้อย นอกจากนี้ อาจารย์อุกฤษฏ์ยังมีความเห็นเพิ่มเติมอีกว่าในระดับของประชาชนก็ยังเห็นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ซึ่งก็คือการกินดีอยู่ดี และระบอบประชาธิปไตยในแบบพม่าก็เอื้อให้เกิดความกินดีอยู่ดี ดังนั้นประชาชนจึงมีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่จะเป็นในลักษณะของการค่อยเป็นค่อยไป ส่วนกรณีบทบาทของอองซานซูจีภายหลังจากได้รับการปล่อยตัว อาจารย์อุกฤษฏ์มองว่ามีทั้งแง่บวกและแง่ลบ คือในเวลานี้คงไม่มีใครปฏิเสธเสียงของสุภาพสตรีที่ทรงพลังอย่างอองซานซูจี ซึ่งภายหลังจากที่ถูกปล่อยตัว เธอก็เดินทางไปเมืองพะโคและเมืองพุกาม ด้วยเหตุผลที่ว่าเพื่อต้องการทดสอบท่าทีของรัฐบาลและทดสอบเสียงของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้เองที่แสดงให้เห็นว่าเธอยังคงเป็นผู้นำสตรีทางการเมืองที่ยังคงมีบทบาทมากที่สุดในเอเชียหรือในโลกเลยก็ว่าได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัด เพราะตัวเธอเองและผู้สนับสนุนก็ยังไม่มั่นใจในกรณีของนโยบายการคว่ำบาตรของอียูและสหรัฐ และตอนนี้เธอไม่มีแล้วซึ่งพรรค NLD ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งพฤติกรรมทางการเมืองของคนพม่าคือ จะยอมรับในรูปแบบของกฎหมายมากที่สุดกว่าหลายๆ ชาติในอาเซียน ดังนั้น การมีพรรคการเมืองที่ถูกต้อง จึงเป็นการมีสิทธิโดยชอบธรรมทางกฎหมาย แต่เมื่อไม่มีพรรคการเมืองรองรับ คนพม่าก็อาจไม่ยอมรับได้ในตรงจุดนี้ จึงทำให้อองซานซูจียังคงมีความสำคัญอยู่ แต่บริบทของเธอก็กำลังเปลี่ยนแปลงไป


เรื่องราวของพม่าบางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ในความเป็นจริงเรากลับมองว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก และจะมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ. 2015 ที่จะถึงนี้ ดังนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเราได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจประเทศเพื่อนบ้านของเราเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะเมื่อวันนั้นมาถึงเราอาจจะเสียเปรียบคนอื่นๆ ก็เป็นได้
นอกจากประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว ประเทศพม่ามีชื่อเป็นทางการว่า Country (long form) Union of Myanmar (Burma) โดยมีชื่อเป็นทางการว่า สหภาพพม่า ตอนนี้มีเมืองหลวง คือ เปียงมะนา ที่ตั้งของเมืองเปียงมะนาอยู่ห่างจากย่างกุ้งไปทางเหนือราว 244 ไมล์ และเป็นจุดตัดของถนนสายหลัก 2 เส้น ซึ่งเชื่อมพม่าตอนเหนือกับตอนใต้เข้าด้วยกัน รวมถึงเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่ใช้กันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกทั้งยังเชื่อมกับเส้นทางรถไฟที่ติดต่อไปยังตอนใต้ของจีน อย่างไรก็ดี ศูนย์กลางที่รัฐบาลพม่าใช้ก่อตั้งเมืองหลวงใหม่จริงๆ อยู่ห่างจากเปียงมะนาไปทางตะวันตกราว 7 ไมล์ เป็นจุดที่เรียกว่า “ไจ้เปี่ย” (Kyep Pyay) ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากนายพลอองซาน เคยใช้เป็นชัยภูมิสู้รบจนได้เอกราชจากอังกฤษ ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่พรรคคอมมิวนิสต์เคยใช้ปักหลักต่อสู้กับรัฐบาลพม่าในอดีต

เมืองหลวงเดิม ย่างกุ้ง มีพื้นที่ 261,970.31 sq mi , 678,500.00 sq kmตั้งอยู่ทวีปเอเชีย (เอเชียตะวันตกเฉียงใต้) พรมแดนติดกับ ทะเลอันดามัน และอ่าวเบงกอล ติดกับบังคลาเทศและไทย ภาษาใช้ Burmese แต่กลุ่มชนต่างๆ มีภาษาของตัวเอง

สกุลเงิน ใช้ จ๊าด kyat ชาติพันธุ์ในพม่า ในสหภาพพม่ากลุ่มชาติพันธุ์ มีอยู่หลายชนเผ่าประมาณ 135 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีภาษาของตนเอง โดยชนเผ่าใหญ่ๆ ที่รู้จักได้แก่ พม่าBamer, ฉิ่น Chin, ขะฉิ่น Kachin, ขะญ่าKayah, ขะยิ่นKayin, มอญ Mon, ระขิ่น Rakhine และ ฉาน Shan ในสหภาพพม่ามีทั้งหมด 14 รัฐแต่ละรัฐแบ่งเป็น
1. Chin 2. Kayah 3. Kachin 4. Kayin 5. Mon 6. Rakhine 7. Shan 8. Ayeyarwady
9. Bago 10. Magway 11. Mandalay 12. Sagaing 13. Tanintharyi 14. Yangon


สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
ส่วนใหญ่ที่ท่องเที่ยวของประเทสนี้จะเป็นวัด อย่างเช่น วัดพระหินขาว พระธาตุมุเตา หรือ พระมหาเจดีย์ชเวมอดอ พระราชวังหงสาวดี หรือ Kanbawzathadi Palace วังพระเจ้าบุเรงนอง พระพุทธไสยาสน์ชเวทาลยวง พระมหาเจดีย์ พระเจดีย์ไจปุ่น(Kyaikpun Pagoda)เป็นต้น


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
พระเจดีย์ชเวซิกอง (Shwezigon Pagoda) อันศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์องค์ใหญ่ ที่มีสีทองอร่ามตา เริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ 1627 โดยพระเจ้าอโนรธามหราช แต่สร้างไม่เสร็จ จนกระทั่งมาสร้างเสร็จในรัชสมัยของพระเจ้าจันสิธาเมื่อปี พ.ศ 1656 เชื่อกันว่าภายในบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งรูปแบบถาปัตยกรรมของพระ เจดีย์ชเวซิกองนี้ ต่อมาเป็นแบบอย่างของการสร้างเจดีย์ของประเทศพม่า ในยุคต่อ ๆ มา และวัดถ้ำจันสิทธา (Kyanzittha Umin)ซึ่งมีลักษณะอาคารเตี้ยก่อด้วยอิฐอยู่ใต้ดิน ครึ่งหนึ่งบนพื้นดินครึ่งหนึ่ง พบกับภาพเขียนโบราณซึ่งวาดขึ้นในระหว่างพุทธ ศตวรรษที่ 16-19 ที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าจันสิทธา วัดที่ดังมากอีกวัดคือ วัดกุโสดอ (Kuthodaw) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทำสังคยานาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 และมีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ที่หนังสือกินเนสบุ๊ค ได้บันทึกไว้ว่าเป็นแผ่นจารึกพระไตรปิฎกที่ใหญ่สุดในโลก ปิดท้ายด้วยวัดชเวนันดอ (Shwenandaw) ซึ่งสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง ลวดลายแกะสลักวิจิตร อ่อนช้อยทั้งหลังคา บานประตู และหน้าต่างอันเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติ และทศชาติของพระพุทธเจ้าซึ่งความงดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ ๆ ภายในวัดมีพระพุทธรูปอันวิจิตรงดงามศิลปะพม่า และหากใครจะซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไทยแล้วไปที่นี่เลยครับ ตลาดเซโจ เป็นศูนย์กลางการค้าในเขตพม่าบน ช่างฝีมือของที่นี่ ผลิตงานฝีมือตามกรรมวิธีโบราณ ด้วยทอง เงิน หินอ่อน กับสิ่ว เส้นด้าย และหูกทอผ้า
ก็หวังว่าจะถูกใจไม่น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น