วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ความสำเร็จ..ฝึกได้จากสติของตัวเอง


ตอนนี้หลายคนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ คงจะมีความเครียดเกิดขึ้นกับบ้านที่อยู่อาศัยของตนเอง ผมขอให้ทุกคนจงมีสติในการแก้ไขปัญหา แล้ววางแผนขอความช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าเดี๋ยวปัญหาเหล่านี้ก็คงหมดไปในที่สุด ผมขอส่งกำลังใจไปให้ และได้มีโอกาสบริจาคช่วยเหลือไปบ้างแล้ว เช้านี้ผมขอเขียนเรื่องการฝึกตัวเองดีกว่า เพราะคนส่วนใหญ่มักมองข้าม หรือทำตัว “รู้” ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ แต่เขาไม่ได้“ทำ”ในสิ่งที่เขา“รู้” จึงเป็นเหตุให้เขายังไม่ประสบความสำเร็จ!ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เราจะต้อง “ฝึกตัวเอง” และในบางครั้งเราจะต้องฝึก “ฝืนใจของตัวเอง” ไม่มีใครอยากให้ตัวเองเหนื่อย หรือเผชิญกับความยากลำบาก ความอึดอัดใจ ไม่มีใครอยากฟังเสียงปฏิเสธ หรืออยากให้ตัวเองพบกับความผิดหวัง เราอยากอยู่สบายๆ เราชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เราติดกับความเคยชินเดิมๆ หรือที่เรียกว่า ติดอยู่ใน Comfort Zone
จงจำไว้เสมอว่า...ชีวิตเต็มไปด้วยบททดสอบ การที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับการว่ายทวนกระแสน้ำ เราจะต้องฝึกเอาชนะใจตัวเอง เอาชนะความอยากและความไม่อยากของตัวเอง เราจะต้องฝืนใจของตัวเองบ้างในบางครั้ง เราจะต้องมีความตั้งใจมั่น เช่น
อยากลดความอ้วน >> เราต้องอดใจ ฝืนตัวเองที่จะไม่กินของหวานหรือไอศรีม และกินพอประมาณเท่านั้น
อยากมีลูกค้าเยอะๆ >> เราต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ฝึกทักษะการพูดโน้มน้าวจูงใจ ฝึกให้ใจยอมรับความผิดหวังจากเสียงปฏิเสธของลูกค้า
อยากประสบความสำเร็จ >> เราต้องฝึกความขยัน อดทน เอาชนะความขี้เกียจ ความรักสบาย
อยากรวย >> ฝึกการเก็บหอมรอมริบ ประหยัด ใช้ชีวิตเรียบง่าย เอาชนะความอยากได้ของหรูๆ กินอาหารแพงๆ และความฟุ่มเฟือยต่างๆ
อยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น >> ฝึกเอาชนะความมีทิฐิมานะของตัวเอง พ่อแง่แม่งอน ฝืนใจตัวเองไม่ให้วอกแวกไปชอบคนอื่น ให้เวลาและให้ความรักอย่างเต็มที่กับคนในครอบครัว
อยากสุขภาพดี >> ฝึกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ทานผัก ผลไม้ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ฝืนใจตัวเองให้เลิกกินเหล้า เลิกสูบบุหรี่
อยากอายุยืน >> ดูแลสุขภาพใจและกายของตัวเองให้ดี ฝึกปล่อยวางสิ่งที่ทำให้เครียด หรือสิ่งที่ทำให้วิตกกังวล


แล้วทำอย่างไรดีกับการฝึก ผมแนะนำง่ายๆ วิธีการฝึกก็คือ เราจะต้อง “มีสติ” คอยตามดู ตามรู้ ตามสอนตัวเองอยู่ตลอดเวลา!
คนที่ใช้ชีวิตแบบ”ไม่มีสติ” ก็จะปล่อยให้ตัวเองทำตามอารมณ์ หรือความอยากที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ถ้าเราสังเกตุให้ดีจะเห็นว่า เรามักจะทำอะไรแบบอัตโนมัติ ตามความเคยชินเดิมๆ เช่น มีคนขับรถปาดหน้าเรา เราก็จะด่าเขาออกไปเลย แบบอัตนิมัติ! ถ้าคุณเคยฝึก“สติ” คือฝึกในการตามดูอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวเราเอง คุณจะเห็นเลยว่า บางครั้งเราไม่สามารถควบคุมความคิดของเราได้ เช่น เราไม่อยากคิดถึงปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะมันทำให้เราเครียดและวิตกกังวล แต่เราก็ไม่สามารถหยุดความคิดนั้นได้ หรือ เราไม่อยากคิดถึงคนที่ทำให้เราเสียใจ แต่เราก็ยังคิดถึงคนๆนั้นอยู่ ใช่หรือไม่?

ถ้าเรา“มีสติ”ในการกิน เวลาที่เราจะกินของที่ไม่มีประโยชน์หรือของที่ทำให้อ้วน มันก็จะมีเสียงเล็กๆในหัวมาเตือนให้เราคิดว่า “ถ้ากินแล้วอ้วนนะ เธอจะกินหรือเปล่า?” เราจะได้พิจารณาว่า ถ้าอยากกินและ“เลือก” ที่จะกิน เราก็ต้อง“รับผิดชอบ”ต่อการเลือก และผลของการเลือกหรือผลของกระทำของเราเอง ถ้าเราอ้วน ก็ไม่ต้องบ่น เพราะเราเลือกเอง! การทำงานก็เหมือนกัน เวลาที่เราออกไปขายของหรือออกไปพบลูกค้า ถ้าลูกค้าปฏิเสธ ยังไม่ซื้อของจากเรา เราก็อาจจะหงุดหงิด เสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้ หมดกำลังใจ หรือเลิกทำงานนั้นไปเลยก็ได้ แต่ถ้าเรา”มีสติ” เราก็จะเห็นตัวเองหมดแรง แล้วก็อาจจะมีความคิดแบบใหม่ว่า “มันเป็นธรรมดาที่มีคนซื้อบ้าง ไม่ซื้อบ้าง” หรือ “อย่างน้อยเราก็ได้รู้จักคนเพิ่ม” หรือ “ได้ฝึกพูด” ซึ่งมันจะทำให้เรากลับมามีพลังใหม่!!

เวลาที่เรา”มีสติ” ตัว”ปัญญา”ก็จะเริ่มเกิด เขาถึงเรียกว่า “สติปัญญา” ! “การฝึกสติ” มีคุณประโยชน์อย่างมหาศาล! เราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น เราจะแยกแยะสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น เราจะปล่อยอารมณ์ด้านลบทิ้งได้เร็วขึ้น นั่นหมายถึงประสิทธิภาพในการทำงานจะสูงขึ้น และเราจะมีความสุข ความสงบในจิตใจมากขึ้น!ผมเห็นคนที่อยากประสบความสำเร็จ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเยอะแยะมากมาย ผมอยากบอกว่า เราสามารถประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วได้ ถ้าเราเก่ง 2 เรื่อง คือ
1.เก่งเรื่องตัวเอง (Personal Mastery)
2.เก่งเรื่องคนอื่น (People Mastery)

เรื่องบางเรื่องที่ผมบรรยายนั้น เป็นการสอนให้เราเก่งเรื่องตัวเอง และก็มีบ้างที่เป็นการสอนให้เราเก่งเรื่องคนอื่น!ผมเสียดายเวลาที่เห็นคนมีฝัน มีไฟ อยากประสบความสำเร็จ แต่เขาไม่มีทักษะในเรื่องของการสื่อสารโน้มน้าวจูงใจที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผลงานออกมาน้อยกว่าที่เขาควรจะทำได้ นักขายพยายามเสนอขาย แต่ปิดการขายได้น้อยเกินไป เพื่อนผู้บริหารของผม หรือผู้นำบางคนมีความคิดอ่านและมีเจตนาที่ดี แต่สื่อสารไม่เป็น ทำให้ลูกน้องหรือทีมงานไม่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น